Agile ในการพัฒนาเว็บไซต์

Agile ในการพัฒนาเว็บไซต์เป็นวิธีการที่นิยมในการจัดการโปรเจ็กต์เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น ระบบข้อมูลตัวแทน หรือเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการนี้มุ่งเน้นการทำงานแบบทีมและการส่งมอบผลงานบ่อยครั้ง โดยใช้กระบวนการพัฒนาแบบรอบสั้น ๆ ที่เรียกว่า "Sprints" โดยที่แต่ละรอบจะมีเป้าหมายและกิจกรรมที่ต้องทำในระยะเวลาที่กำหนด
  • ประเด็นสำคัญของ Agile ในการพัฒนาเว็บไซต์
  • Agile กับ Waterfall ต่างกันอย่างไร

ประเด็นสำคัญของ Agile ในการพัฒนาเว็บไซต์

    1. การสื่อสารและความร่วมมือ: การสื่อสารระหว่างทีมพัฒนาและผู้เรียกใช้เว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทราบถึงความคืบหน้าและความต้องการตลอดระหว่างกระบวนการพัฒนา

    2. การวางแผนและการระบุความสำเร็จ: การกำหนดเป้าหมายและวัดความสำเร็จของแต่ละรอบ (Sprint) เพื่อให้ทราบว่าโปรเจ็กต์กำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง

    3. ความยืดหยุ่น: Agile ให้ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนความต้องการหรือข้อกำหนดของโปรเจ็กต์ได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถปรับปรุงและปรับเปลี่ยนได้ตามความเปลี่ยนแปลงของตลาดหรือความต้องการของลูกค้า

    4. การทดสอบและการให้ความคิดเห็น: Agile ให้ความสำคัญกับการทดสอบและการให้ความคิดเห็นจากผู้ใช้ตลอดการพัฒนา เพื่อให้สามารถปรับปรุงและปรับเปลี่ยนได้อย่างต่อเนื่อง

    5. การส่งมอบและการพัฒนาที่ต่อเนื่อง: Agile สามารถส่งมอบผลงานบ่อยครั้งและรวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้งานและให้ความคิดเห็น และตัดสินใจในการปรับปรุงต่อไป


​​​​​​​การใช้วิธี Agile ในการพัฒนาเว็บไซต์ช่วยให้โปรเจ็กต์มีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลงานที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าและตลาดในระยะยาว

Agile กับ Waterfall ต่างกันอย่างไร

Agile และ Waterfall เป็นวิธีการจัดการโปรเจ็กต์ที่ต่างกันอย่างมากในองค์ประกอบหลักและวิธีการทำงาน ต่อไปนี้คือความแตกต่างระหว่าง Agile และ Waterfall:

    1. กระบวนการ:

        ​​​​​​​•  Agile: มีกระบวนการทำงานแบบรอบสั้น ๆ (Sprints) โดยทีมพัฒนาจะทำงานในรอบเล็ก ๆ และส่งมอบผลงานบ่อยครั้ง โดยการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Waterfall: มีกระบวนการทำงานแบบเชิงเส้นตรง คือ มีขั้นตอนที่มีการตัดสินใจและการส่งมอบผลงานในขั้นตอนต่าง ๆ โดยไม่มีการกลับมาแก้ไขในขั้นตอนที่ผ่านมา

    2. การบริหารจัดการเวลาและงบประมาณ:

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Agile: มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงความต้องการและขอบเขต ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนแผนการทำงานและงบประมาณได้ตลอดเวลา

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Waterfall: มีข้อกำหนดความต้องการและขอบเขตที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า และมักจะเป็นเหตุให้การเปลี่ยนแปลงความต้องการในภายหลังเป็นอุปสรรค

    3. การสื่อสารและความร่วมมือ:

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Agile: การสื่อสารและความร่วมมือระหว่างทีมพัฒนาและผู้เรียกใช้เป็นส่วนสำคัญ เพื่อปรับปรุงและปรับเปลี่ยนตลอดการทำงาน

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Waterfall: การสื่อสารมักเกิดขึ้นในขั้นตอนที่ต้องการการตัดสินใจและมีการรายงานผลที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอน

    4. การทดสอบและการส่งมอบ:

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Agile: การทดสอบและการส่งมอบเริ่มต้นในระหว่างกระบวนการพัฒนาและส่งผลงานบ่อยครั้ง ทำให้มีการทดสอบและการปรับปรุงตลอดเวลา

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Waterfall: การทดสอบมักเกิดขึ้นหลังจากการพัฒนาทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ และการส่งมอบเป็นขั้นตอนสุดท้าย

    5. ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลง:

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Agile: มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงความต้องการและขอบเขตได้ตลอดเวลา และสามารถปรับปรุงตลอดการพัฒนา

​​​​​​​        ​​​​​​​•  Waterfall: มีความยืดหยุ่นน้อยและการเปลี่ยนแปลงความต้องการในภายหลังอาจทำให้เกิดความยุ่งยากและสูญเสียเวลา


​​​​​​​การเลือกใช้วิธีการ Agile หรือ Waterfall ขึ้นอยู่กับลักษณะของโปรเจ็กต์และความต้องการของลูกค้า การเริ่มต้นด้วยความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างทั้งสองวิธีการจะช่วยให้โปรเจ็กต์ประสบความสำเร็จในที่สุด

Let's get cracking